ในปัจจุบัน โรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมภายในมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่สำหรับการฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วย เช่น ห้องกายภาพบำบัด ห้องออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ หรือศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ พื้นที่เหล่านี้จำเป็นต้องมีพื้นผิวที่ปลอดภัย รองรับแรงกระแทกได้ดี และส่งเสริมบรรยากาศที่ผ่อนคลาย หนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมคือ “พื้นไม้กีฬา” ซึ่งสามารถปรับแต่งสีได้ตามความต้องการ การเลือกใช้พื้นไม้กีฬาที่เหมาะสมในโรงพยาบาลไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พื้นไม้กีฬาที่ใช้ในโรงพยาบาลมีข้อกำหนดเฉพาะแตกต่างจากพื้นที่กีฬาในโรงเรียนหรือฟิตเนสทั่วไป เพราะต้องตอบสนองทั้งในด้านฟังก์ชันและอารมณ์ของผู้ใช้งาน เช่น ผู้ป่วยที่ต้องการความรู้สึกปลอดภัย สะดวกสบาย และไม่กดดัน พื้นไม้จึงควรมีความยืดหยุ่นพอสมควร ลดแรงกระแทกได้ดี และมีพื้นผิวที่ไม่ลื่น การเลือกใช้ไม้แท้ที่ผ่านการอบแห้งและเคลือบผิวด้วยวัสดุปลอดสารพิษจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่องทุกวัน
หนึ่งในข้อดีของพื้นไม้กีฬาคือสามารถ “ปรับแต่งสี” ได้ตามธีมหรือจุดประสงค์ของการใช้งานในแต่ละโซน เช่น สีอ่อนสำหรับห้องกายภาพเพื่อสร้างบรรยากาศสงบ สีโทนอบอุ่นสำหรับห้องพักฟื้นผู้สูงอายุ หรือสีโทนสว่างในห้องฝึกการเคลื่อนไหวของเด็ก พื้นไม้ที่สามารถเลือกสีได้ตามต้องการช่วยให้โรงพยาบาลสามารถออกแบบสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มผู้ใช้งาน เพิ่มความรู้สึกสบายใจและช่วยลดความเครียดให้กับผู้ป่วยได้อีกทางหนึ่ง
ในด้านราคาของผู้ผลิตพื้นไม้กีฬาในโรงพยาบาลที่ปรับแต่งสีได้นั้น โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงประมาณ 2,000 – 5,000 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทไม้ที่เลือกใช้ (เมเปิ้ล, บีช หรือไม้เนื้อแข็งอื่น ๆ) ระบบการติดตั้ง (พื้นลอยตัวหรือแบบยึดติด) ระดับของการปรับแต่งสี (สีพื้นธรรมดาหรือสีเฉพาะตาม Pantone) และการเคลือบผิวพิเศษ เช่น เคลือบกันเชื้อรา กันแบคทีเรีย หรือเคลือบ UV เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและยืดอายุการใช้งาน
ระบบการติดตั้งเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่มีผลต่อราคา โดยระบบพื้นลอยตัว (Floating System) มักเป็นที่นิยมในโรงพยาบาล เพราะช่วยดูดซับแรงกระแทก ลดอาการบาดเจ็บเมื่อล้ม และมีความยืดหยุ่นที่เหมาะสมกับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ระบบนี้ใช้โครงสร้างไม้หลายชั้นประกอบกับแผ่นรองรับแรงกระแทกพิเศษ ซึ่งแม้ต้นทุนจะสูงกว่าระบบทั่วไป แต่ให้ความปลอดภัยและความสบายในการใช้งานที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีการออกแบบพื้นให้สอดคล้องกับฟังก์ชันของแต่ละพื้นที่ เช่น การแบ่งโซนด้วยลายไม้หรือสีที่แตกต่างกัน แทนการใช้ฉากกั้นหรือพรมปูพื้น ซึ่งนอกจากจะสะอาดและปลอดภัยมากกว่าแล้ว ยังง่ายต่อการทำความสะอาด ลดการสะสมของเชื้อโรคในพื้นที่โรงพยาบาลอีกด้วย พื้นไม้กีฬาที่ดีควรมีคุณสมบัติป้องกันน้ำ ความชื้น และไม่ดูดซับกลิ่น เพื่อให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษ
การบำรุงรักษาพื้นไม้กีฬาในโรงพยาบาลก็ถือเป็นอีกประเด็นสำคัญ โดยควรมีการดูแลอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำความสะอาดด้วยน้ำยาที่ปลอดภัย การขัดผิวไม้และเคลือบเงาใหม่เป็นระยะ เพื่อรักษาความเรียบและป้องกันการลื่น รวมถึงควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในห้องให้เหมาะสม การเลือกพื้นไม้ที่สามารถซ่อมแซมหรือเปลี่ยนเฉพาะจุดได้โดยไม่ต้องรื้อถอนทั้งแผ่น จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาวได้มาก
ในด้านของภาพลักษณ์ พื้นไม้กีฬาที่สวยงามและสามารถปรับแต่งสีได้ ช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพของโรงพยาบาล โดยเฉพาะในโรงพยาบาลเอกชนหรือศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพที่ต้องการสร้างความแตกต่างและประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้มาใช้บริการ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นจุดเด่นในการสื่อสารแนวคิดขององค์กร เช่น การใส่ใจในรายละเอียด ความปลอดภัย และคุณภาพของบริการ
สรุปได้ว่า ราคาผู้ผลิตพื้นไม้กีฬาในโรงพยาบาลที่สามารถปรับแต่งสีได้แม้จะมีต้นทุนที่สูงกว่าพื้นทั่วไป แต่ก็แลกมากับคุณสมบัติที่เหนือกว่าในหลายด้าน ทั้งความปลอดภัย ความสวยงาม การใช้งานที่ยืดหยุ่น และภาพลักษณ์ของสถานพยาบาล หากเลือกผู้ผลิตที่มีความชำนาญ เข้าใจลักษณะการใช้งานเฉพาะของโรงพยาบาล และสามารถให้คำแนะนำเรื่องวัสดุ การติดตั้ง และการดูแลรักษาได้อย่างมืออาชีพ ก็จะยิ่งเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนระยะยาว ช่วยให้โรงพยาบาลมีพื้นที่ที่ปลอดภัย ทันสมัย และน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น