ในยุคปัจจุบันที่สนามกีฬาถูกออกแบบมาให้รองรับกิจกรรมได้หลากหลายประเภท พื้นไม้กีฬาจึงต้องถูกพัฒนาให้สามารถตอบสนองต่อการใช้งานแบบหลายฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นบาสเกตบอล แบดมินตัน วอลเลย์บอล หรือแม้แต่กิจกรรมอเนกประสงค์อย่างงานจัดแสดงสินค้าและคอนเสิร์ต การเลือกใช้พื้นไม้ที่สามารถปรับแต่งเฉดสีให้เหมาะสมกับดีไซน์สนามและอัตลักษณ์ของสถานที่จึงกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่หลายองค์กรให้ความสนใจ ผู้ผลิตพื้นไม้กีฬาที่สามารถผลิตและติดตั้งพื้นในสนามกีฬาแบบหลายฟังก์ชัน พร้อมการปรับแต่งสีให้ตรงกับความต้องการได้ จึงมีบทบาทสำคัญยิ่งในวงการนี้
พื้นไม้กีฬาสำหรับสนามหลายฟังก์ชันต้องมีความสามารถในการรองรับแรงกระแทกจากกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการกระโดด วิ่ง หมุนตัว หรือการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว จึงมักเลือกใช้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เมเปิ้ล หรือไม้โอ๊ก ที่มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถนำมาปรับแต่งผิวหน้าให้มีเฉดสีตามความต้องการ เช่น สีไม้ธรรมชาติ สีอ่อนเพื่อเพิ่มความสว่าง หรือแม้แต่สีเข้มเพื่อสร้างความหรูหราและทันสมัย
หนึ่งในจุดเด่นของผู้ผลิตพื้นไม้กีฬาที่เชี่ยวชาญ คือการสามารถนำเสนอทางเลือกด้านการปรับแต่งสีที่หลากหลาย โดยใช้เทคนิคการย้อมสีไม้ เคลือบด้วยสารเคลือบ UV หรือสีเฉพาะสำหรับพื้นกีฬา ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามให้กับสนามเท่านั้น แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติของพื้นไม้ที่เหมาะสมกับการเล่นกีฬา ไม่ลื่น ไม่เป็นรอยง่าย และยังสามารถสะท้อนแสงได้ดีเมื่อติดตั้งในอาคาร
การเลือกสีของพื้นไม้นั้นไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการสร้างบรรยากาศในสนาม การมองเห็นของผู้เล่น และภาพลักษณ์โดยรวม เช่น สนามที่ต้องการความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง อาจเลือกใช้สีไม้โทนกลาง ในขณะที่สนามที่ใช้สำหรับการแข่งขันระดับสูงอาจเลือกใช้สีเข้มหรือพื้นลายไม้แบบหรูหราเพื่อเน้นความเป็นทางการและมืออาชีพ
กระบวนการผลิตพื้นไม้กีฬาสำหรับสนามหลายฟังก์ชันที่สามารถปรับสีได้ เริ่มตั้งแต่การเลือกไม้ที่มีคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการอบแห้งที่ควบคุมความชื้นอย่างแม่นยำเพื่อลดการหดตัวและการบิดงอ จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการตัดแต่งและขัดผิวให้เรียบเนียน พร้อมลงสีตามแบบที่กำหนด โดยทุกขั้นตอนต้องใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพและสม่ำเสมอ
นอกจากความสวยงามและความทนทานแล้ว พื้นไม้ที่ใช้ในสนามหลายฟังก์ชันต้องสามารถดูดซับแรงกระแทก ลดแรงสะท้อนกลับ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บของนักกีฬา ทั้งยังต้องมีระบบยึดพื้นไม้ที่แน่นหนา เช่น ระบบล็อกแบบลิ้นร่อง หรือระบบโครงสร้างไม้ยืดหยุ่น ที่ช่วยให้พื้นมีความมั่นคงและสามารถถอดประกอบได้ง่ายในกรณีที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนย้าย
อีกหนึ่งข้อได้เปรียบของพื้นไม้ที่สามารถปรับแต่งสีได้ คือความสามารถในการออกแบบสนามให้มีโซนที่แตกต่างกัน เช่น โซนแข่งขันหลักอาจใช้สีหนึ่ง โซนอบอุ่นร่างกายใช้สีอีกแบบ หรือโซนกิจกรรมอเนกประสงค์อาจใช้สีที่ช่วยเพิ่มพลังงานและความเคลื่อนไหว ซึ่งการใช้สีเพื่อการออกแบบเชิงพื้นที่เช่นนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและความสวยงามของสนามในเวลาเดียวกัน
ผู้ผลิตพื้นไม้กีฬาที่เชี่ยวชาญยังสามารถให้บริการด้านการออกแบบเส้นสนามที่สอดคล้องกับมาตรฐานของกีฬาแต่ละประเภท เช่น เส้นสนามบาสเกตบอล แบดมินตัน หรือฟุตซอล โดยใช้สีที่ตัดกับพื้นไม้เพื่อให้เห็นได้ชัดเจน และเลือกใช้วัสดุสีที่ไม่ลอกง่าย ไม่ซีดจางจากการใช้งานอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้คำแนะนำด้านการบำรุงรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งานของพื้น
การติดตั้งพื้นไม้ในสนามหลายฟังก์ชันต้องมีความแม่นยำสูง ทั้งในเรื่องของการปรับระดับ การเว้นร่องไม้เพื่อการขยายตัวตามอุณหภูมิ และการจัดการระบบใต้พื้น เช่น ระบบกันความชื้นหรือระบบรองรับแรงสั่นสะเทือน ผู้ผลิตที่มีประสบการณ์จะสามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว มีความปลอดภัย และไม่กระทบต่อการใช้งานของสนามในระยะยาว
ในยุคที่การออกแบบสนามกีฬาก้าวสู่มิติใหม่ของการใช้งานแบบเอนกประสงค์ การเลือกผู้ผลิตพื้นไม้กีฬาที่สามารถปรับแต่งสีได้ตามความต้องการของลูกค้า จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ เพิ่มความสวยงาม และรองรับกิจกรรมได้อย่างหลากหลาย ทั้งยังสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา ผู้ฝึกสอน หรือผู้ชม
การลงทุนในพื้นไม้กีฬาที่มีคุณภาพ พร้อมความสามารถในการปรับแต่งดีไซน์และสี จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการตกแต่งสนาม แต่เป็นการเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพในการใช้งานของพื้นที่อย่างแท้จริง เหมาะสำหรับองค์กร โรงเรียน สถานศึกษา หรือศูนย์กีฬาเอกชนที่ต้องการสร้างสนามที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในพื้นที่เดียว