พื้นไม้สนามกีฬาสองชั้นเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในวงการก่อสร้างสนามกีฬาในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่เหนือกว่าพื้นไม้ชั้นเดียวทั่วไป พื้นแบบนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน แต่ยังตอบโจทย์ในเรื่องความปลอดภัย ความทนทาน และความยืดหยุ่นในการใช้งานในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสนามกีฬาประเภทในร่ม เช่น สนามบาสเกตบอล สนามวอลเลย์บอล หรือสนามแบดมินตัน ที่ต้องรองรับแรงกระแทกและการเคลื่อนไหวที่หลากหลายของนักกีฬา
พื้นไม้สนามกีฬาสองชั้นประกอบด้วยระบบโครงสร้างสองชั้นที่มีการวางไม้หรือวัสดุรองรับแรงกระแทกไว้ในชั้นล่าง ขณะที่ชั้นบนสุดจะเป็นแผ่นไม้เนื้อแข็งที่ผ่านการขัดเงาและเคลือบผิวเรียบร้อยแล้ว ชั้นล่างมักประกอบด้วยไม้เนื้อแข็งหรือวัสดุรองรับที่มีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นและซับแรง เพื่อช่วยลดแรงกระแทกที่ส่งไปยังร่างกายของผู้เล่นและเพิ่มความปลอดภัยในการเล่นกีฬา
หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของพื้นไม้สนามกีฬาสองชั้นคือความสามารถในการรองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม เมื่อผู้เล่นกระโดดหรือเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แรงที่เกิดขึ้นจะถูกกระจายลงไปยังชั้นล่างก่อนที่จะสะท้อนกลับขึ้นมาชั้นบน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ เช่น อาการปวดเข่า ข้อเท้า หรือกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกีฬาแรงกระแทกสูง พื้นชนิดนี้สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของนักกีฬาได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ พื้นไม้สนามกีฬาสองชั้นยังมีความเสถียรและมั่นคงกว่าเมื่อต้องใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ เนื่องจากระบบสองชั้นช่วยลดการแอ่นตัวหรือบิดงอของพื้นไม้ ซึ่งเป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับพื้นไม้แบบชั้นเดียวในระยะเวลาการใช้งานนานๆ อีกทั้งยังสามารถปรับระดับความหนาของวัสดุในแต่ละชั้นให้เหมาะสมกับประเภทของกีฬาและน้ำหนักที่สนามต้องรองรับได้อย่างยืดหยุ่น
ในแง่ของการดูแลรักษา พื้นไม้สนามกีฬาสองชั้นสามารถทำความสะอาดได้ง่าย และสามารถขัดผิวหน้าพื้นและเคลือบเงาใหม่ได้เมื่อเริ่มมีรอยขีดข่วนหรือสีจางลง ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นโดยรวม ทั้งยังมีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ให้บรรยากาศอบอุ่นและเป็นมืออาชีพกับสนามกีฬา โดยเฉพาะในสถานศึกษา โรงยิม หรือศูนย์กีฬาในร่ม
การติดตั้งพื้นไม้สนามกีฬาสองชั้นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและการวางแผนอย่างละเอียด เนื่องจากต้องคำนึงถึงระดับความชื้น อุณหภูมิของพื้นที่ ตลอดจนการปรับระดับพื้นให้ได้มาตรฐานที่เหมาะสมกับการใช้งานกีฬา ซึ่งเป็นเหตุผลที่ควรใช้ผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งระบบพื้นชนิดนี้อย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้คุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด
สำหรับการเลือกประเภทของไม้ที่ใช้เป็นพื้นสนามกีฬา มักนิยมใช้ไม้เมเปิ้ล ไม้โอ๊ค หรือไม้ยางพาราคุณภาพสูง ที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทกและมีผิวสัมผัสที่เหมาะสมต่อการเคลื่อนไหวในกีฬา ผิวของไม้ควรผ่านการเคลือบสารป้องกันความชื้นและรอยขีดข่วน เพื่อให้อายุการใช้งานยาวนาน และลดการซ่อมแซมในระยะยาว
พื้นไม้สนามกีฬาสองชั้นยังสามารถออกแบบให้รองรับระบบเสริมอื่นๆ ได้ เช่น ระบบระบายอากาศใต้พื้น ระบบสายไฟหรือสายสื่อสารที่ซ่อนไว้ในโครงสร้าง หรือแม้กระทั่งระบบกันเสียงในกรณีที่สนามตั้งอยู่ในอาคารที่ต้องการลดเสียงรบกวน ซึ่งเป็นความยืดหยุ่นในการออกแบบที่เหมาะกับการใช้งานในยุคปัจจุบันที่เน้นฟังก์ชันหลายรูปแบบในพื้นที่เดียวกัน
กล่าวโดยสรุป พื้นไม้สนามกีฬาสองชั้นคือทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความทนทาน และความสวยงาม หากได้รับการออกแบบและติดตั้งอย่างเหมาะสม สนามกีฬาจะสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน เหมาะสำหรับทั้งสนามกีฬาในระดับมือสมัครเล่นและสนามแข่งขันระดับมืออาชีพที่ต้องการมาตรฐานสูงสุดในการใช้งานทุกวัน