พื้นไม้สนามกีฬาหนา 22 มม. เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในสนามกีฬาทั้งในระดับมืออาชีพและมือสมัครเล่น ด้วยความหนาที่เหมาะสม พื้นไม้ชนิดนี้สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บของนักกีฬา พร้อมทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ความหนา 22 มม. ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ให้ความสมดุลระหว่างความแข็งแรงและความยืดหยุ่น จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในสนามกีฬาประเภทในร่ม ไม่ว่าจะเป็นสนามบาสเกตบอล วอลเลย์บอล แบดมินตัน หรือฟุตซอล

ด้วยความหนาที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับพื้นไม้ทั่วไป พื้นไม้สนามกีฬาหนา 22 มม. สามารถรับแรงกดทับและแรงเคลื่อนไหวในแนวดิ่งได้ดี ทำให้เมื่อผู้เล่นวิ่ง กระโดด หรือเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว พื้นสามารถดูดซับแรงกระแทกได้มากกว่าปกติ ลดแรงสะท้อนกลับที่ส่งผลต่อข้อเข่าและข้อเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกีฬาแรงสูง การใช้พื้นหนา 22 มม. จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้เล่นอย่างมีประสิทธิภาพ
พื้นไม้ชนิดนี้มักผลิตจากไม้เนื้อแข็งคุณภาพสูง เช่น ไม้เมเปิ้ล ไม้โอ๊ค หรือไม้ยางพาราที่ผ่านกระบวนการอบแห้งเพื่อให้มีความชื้นที่เหมาะสมก่อนการใช้งาน เมื่อผ่านการขัดและเคลือบผิวอย่างถูกต้อง พื้นไม้จะมีความเรียบเนียนและไม่ลื่น ช่วยให้นักกีฬาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ มีแรงเสียดทานที่พอดีต่อการเล่นกีฬา ไม่ลื่นจนเกิดอันตราย และไม่หยาบจนขัดขวางการเคลื่อนไหว
ข้อดีอีกประการของพื้นไม้หนา 22 มม. คือเรื่องของความคงทนต่อการใช้งานในระยะยาว เมื่อเทียบกับพื้นบางที่อาจเกิดการโก่งงอหรือแตกร้าวเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน พื้นที่มีความหนาจะสามารถทนต่อสภาพการใช้งานหนักและการซ่อมบำรุงได้น้อยครั้งมากกว่า นอกจากนี้ยังสามารถขัดพื้นเพื่อปรับสภาพผิวให้เรียบใหม่ได้หลายรอบในช่วงอายุการใช้งาน ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการเปลี่ยนพื้นใหม่ในระยะยาว
ในการติดตั้งพื้นไม้สนามกีฬาหนา 22 มม. มักมีการวางระบบรองรับที่ได้มาตรฐาน เช่น โครงไม้หรือยางรองรับแรงกระแทก ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับแรงและรักษาระดับพื้นให้เสถียร ไม่เกิดการยวบหรือสั่นสะเทือนขณะใช้งานจริง อีกทั้งยังสามารถวางระบบระบายความชื้นหรือระบบกันเสียงร่วมกับโครงสร้างพื้น เพื่อเพิ่มความสะดวกและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของสนามกีฬาแต่ละแห่ง
ในเรื่องของการดูแลรักษา พื้นไม้หนา 22 มม. ไม่แตกต่างจากพื้นไม้ทั่วไปมากนัก เพียงต้องหมั่นทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งหรือเครื่องดูดฝุ่น และหลีกเลี่ยงการใช้น้ำหรือสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ซึ่งอาจทำลายสารเคลือบผิวได้ หากพื้นเกิดรอยหรือความเสียหายเล็กน้อย สามารถขัดผิวหน้าและเคลือบใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องรื้อเปลี่ยนทั้งแผ่น ซึ่งสะดวกและประหยัดเวลาอย่างมาก
พื้นไม้สนามกีฬาหนา 22 มม. ยังสามารถออกแบบลวดลายหรือเส้นแบ่งสนามได้อย่างชัดเจนและคงทน สีที่ใช้สำหรับทำเส้นมักเป็นสีพิเศษที่ทนต่อแรงเสียดทาน ไม่ลอกง่าย และสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล ทำให้การเล่นกีฬาเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้สนามมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
ในปัจจุบัน หลายสนามกีฬาทั้งในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และศูนย์กีฬาเอกชน นิยมเลือกใช้พื้นไม้ความหนา 22 มม. เนื่องจากสามารถใช้งานได้หลากหลายประเภทกีฬา ติดตั้งได้ง่าย และให้ประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในด้านความปลอดภัยและความคงทน หากได้รับการติดตั้งจากผู้เชี่ยวชาญและบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม พื้นไม้ชนิดนี้จะสามารถใช้งานได้นานหลายสิบปี โดยไม่ต้องเปลี่ยนวัสดุบ่อยครั้ง
กล่าวโดยสรุป พื้นไม้สนามกีฬาหนา 22 มม. เป็นทางเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงและปลอดภัยในสนามกีฬา ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก ทนทานต่อการใช้งาน และดูแลรักษาง่าย จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว สำหรับสนามกีฬาทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ที่ต้องการมาตรฐานระดับมืออาชีพ
