ราคาพื้นไม้สนามกีฬาเมเปิ้ลและเบิร์ชต่อตารางเมตร

พื้นไม้สนามกีฬาเมเปิ้ลและเบิร์ชเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการก่อสร้างสนามกีฬาในร่ม ไม่ว่าจะเป็นสนามบาสเกตบอล สนามวอลเลย์บอล หรือสนามแบดมินตัน ด้วยคุณสมบัติของไม้ทั้งสองชนิดที่ให้ความแข็งแรง ยืดหยุ่น และทนต่อแรงกระแทกได้ดี อีกทั้งยังมีผิวสัมผัสเรียบเนียน ไม่ลื่นจนเกินไป จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเล่นกีฬาอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ความสวยงามของลายไม้เมเปิ้ลและเบิร์ชยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้สนามดูกลมกลืนและทันสมัยยิ่งขึ้น

ราคาพื้นไม้สนามกีฬาเมเปิ้ลและเบิร์ชต่อตารางเมตร
ราคาพื้นไม้สนามกีฬาเมเปิ้ลและเบิร์ชต่อตารางเมตร

เมื่อพูดถึงราคาพื้นไม้สนามกีฬาเมเปิ้ลและเบิร์ชต่อตารางเมตร จำเป็นต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นประเภทของไม้ เกรดของไม้ ความหนา ระบบโครงสร้างรองพื้น และขั้นตอนการติดตั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อราคาสุดท้ายของการติดตั้งพื้นสนามกีฬา

สำหรับไม้เมเปิ้ล (Maple) ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีชื่อเสียงในวงการกีฬา โดยเฉพาะในสนามบาสเกตบอลระดับนานาชาติ ไม้เมเปิ้ลมีความแข็งแรงสูง ความหนาแน่นของไม้ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งมีผิวไม้ที่เรียบ ลายไม้สวยงามเฉพาะตัว ราคาของพื้นไม้เมเปิ้ลจะเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 2,800 – 4,500 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของไม้ (เช่น ไม้เมเปิ้ลจากอเมริกาเหนือจะมีราคาสูงกว่าไม้เมเปิ้ลจากเอเชีย) รวมถึงระดับความหนาซึ่งโดยทั่วไปมักใช้ที่ 22 มิลลิเมตรในสนามแข่งขันมาตรฐาน

ในส่วนของไม้เบิร์ช (Birch) เป็นไม้เนื้อแข็งอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมรองจากเมเปิ้ล ไม้เบิร์ชมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง ลวดลายไม้ละเอียด สีออกโทนอ่อนอมเหลืองคล้ายเมเปิ้ล ทำให้ดูเรียบง่ายและสวยงามในแบบธรรมชาติ ไม้เบิร์ชยังมีน้ำหนักเบากว่าเล็กน้อย จึงเหมาะกับสนามฝึกซ้อมหรือสนามในโรงเรียน ราคาของพื้นไม้เบิร์ชอยู่ที่ประมาณ 2,200 – 3,800 บาทต่อตารางเมตร โดยขึ้นอยู่กับเกรดไม้ ระบบพื้น และรายละเอียดของการติดตั้ง

ระบบพื้นหรือโครงสร้างรองรับพื้นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาต่อตารางเมตร ระบบพื้นแบบลอยตัว (Floating Floor System) หรือระบบพื้นสองชั้น (Double Layer Subfloor) ที่ช่วยรองรับแรงกระแทกและเพิ่มความยืดหยุ่นในการเล่นกีฬา จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 500 – 1,000 บาทต่อตารางเมตร วัสดุที่ใช้ในระบบเหล่านี้ เช่น แผ่นยาง PU แผ่นไม้รองแรง และโครงตาข่ายเหล็ก จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับระดับการใช้งานของสนาม

การเคลือบผิวหน้าพื้นไม้ก็มีบทบาทในการเพิ่มอายุการใช้งานและความปลอดภัย โดยทั่วไปจะเคลือบด้วยสารยูรีเทน (Polyurethane) หลายชั้น เพื่อเพิ่มความเงางามและป้องกันรอยขีดข่วน ค่าใช้จ่ายสำหรับการเคลือบผิวอยู่ที่ประมาณ 200 – 400 บาทต่อตารางเมตร และอาจเพิ่มขึ้นหากต้องการเคลือบหลายรอบเพื่อเพิ่มความทนทาน

นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น การทำเส้นสนามตามมาตรฐานกีฬาแต่ละประเภท การปรับพื้นให้ได้ระดับ และการเก็บรายละเอียดขอบสนาม เพื่อให้สนามดูสมบูรณ์แบบและใช้งานได้จริงในระยะยาว

ข้อดีของการใช้ไม้เมเปิ้ลและเบิร์ชคือความทนทานและความยืดหยุ่น ซึ่งช่วยลดอาการบาดเจ็บของนักกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสองชนิดสามารถรองรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้ดี มีอายุการใช้งานยาวนานตั้งแต่ 10 – 20 ปี หากมีการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม เช่น การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ การป้องกันไม่ให้พื้นเปียกน้ำ และการเคลือบพื้นซ้ำทุก 3 – 5 ปี

สรุปแล้ว ราคาพื้นไม้สนามกีฬาเมเปิ้ลและเบิร์ชต่อตารางเมตรจะอยู่ในช่วง 2,200 – 4,500 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ เกรด ความหนา ระบบโครงสร้าง และงานติดตั้งโดยรวม ถึงแม้ราคาจะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวัสดุปูพื้นประเภทอื่น เช่น PVC หรือพื้นยาง แต่ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าในด้านความทนทาน ความปลอดภัย และภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพ พื้นไม้เมเปิ้ลและเบิร์ชจึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับสนามกีฬาที่ต้องการมาตรฐานระดับสูงและการใช้งานอย่างต่อเนื่อง

 

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top