ราคาพื้นไม้สนามกีฬาหนา 22 มม.

พื้นไม้สนามกีฬาหนา 22 มม. เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในวงการก่อสร้างสนามกีฬา โดยเฉพาะสนามในร่มที่ต้องรองรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วง เช่น สนามบาสเกตบอล สนามวอลเลย์บอล หรือสนามแบดมินตัน เนื่องจากความหนาในระดับนี้ถือว่าเหมาะสมทั้งในด้านความแข็งแรง ความทนทาน และความปลอดภัยต่อผู้เล่น จึงไม่แปลกที่พื้นไม้ขนาด 22 มม. จะถูกเลือกใช้ในสนามกีฬาทั้งระดับแข่งขันและระดับฝึกซ้อมทั่วไป

ราคาพื้นไม้สนามกีฬาหนา 22 มม.
ราคาพื้นไม้สนามกีฬาหนา 22 มม.

เมื่อพูดถึงราคาของพื้นไม้สนามกีฬาหนา 22 มม. จะต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ใช่เพียงแค่ความหนาของไม้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงชนิดของไม้ ระบบโครงสร้างรองพื้น วิธีการติดตั้ง และการตกแต่งพื้นผิว โดยทั่วไปแล้ว ราคาของพื้นไม้หนา 22 มม. จะเริ่มต้นประมาณ 1,800 บาทต่อตารางเมตร และอาจสูงถึง 4,000 บาทต่อตารางเมตรหรือลากยาวไปถึง 5,000 บาทต่อตารางเมตร หากเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงและติดตั้งระบบพื้นขั้นสูง

ประเภทของไม้ที่นิยมใช้สำหรับพื้นสนามกีฬาความหนา 22 มม. ได้แก่ ไม้เมเปิล (Maple) ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความหนาแน่นสูง พื้นผิวเรียบ ทนต่อแรงกระแทกได้ดี เหมาะกับสนามแข่งขันระดับสากล ราคาจะอยู่ในช่วง 2,800 – 4,500 บาทต่อตารางเมตร ไม้เมเปิลยังมีคุณสมบัติเด่นคือยืดหยุ่นในระดับที่ช่วยลดแรงกระแทกบริเวณข้อเท้าของนักกีฬาได้เป็นอย่างดี

หากต้องการทางเลือกที่มีงบประมาณย่อมเยาลง ไม้ยางพารา (Rubberwood) ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ แม้ว่าความทนทานจะน้อยกว่าไม้เมเปิล แต่ก็มีความยืดหยุ่นสูง และหาได้ง่ายในประเทศไทย ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,800 – 2,500 บาทต่อตารางเมตร สำหรับไม้บีช (Beech) ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับไม้เมเปิล ทั้งในเรื่องของความแข็งแรงและความสวยงาม ราคาจะอยู่ในช่วง 2,500 – 3,800 บาทต่อตารางเมตร

นอกจากวัสดุไม้แล้ว โครงสร้างพื้นก็มีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคา พื้นไม้สนามกีฬาแบบลอยตัว (Floating System) และระบบพื้นแบบสองชั้น (Double Layer Subfloor) จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและการดูดซับแรงกระแทก ทำให้ลดโอกาสในการเกิดอาการบาดเจ็บจากการวิ่งหรือกระโดดในระยะยาว ระบบเหล่านี้มีราคาค่าติดตั้งเพิ่มเติมประมาณ 500 – 1,000 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้และความซับซ้อนของการติดตั้ง

การเคลือบผิวหน้าของพื้นไม้ก็มีผลต่อราคาสุดท้ายเช่นกัน พื้นไม้คุณภาพสูงมักจะมีการเคลือบสารยูรีเทนหลายชั้น เพื่อเพิ่มความเงางาม ป้องกันรอยขีดข่วน และเพิ่มอายุการใช้งาน ซึ่งกระบวนการนี้อาจมีต้นทุนเพิ่มเติมประมาณ 200 – 400 บาทต่อตารางเมตร รวมถึงการทำเส้นสนามและลวดลายตามประเภทกีฬาก็เป็นอีกค่าใช้จ่ายที่ควรพิจารณา

แม้ราคาจะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวัสดุปูพื้นประเภทอื่น เช่น พื้น PVC หรือพื้นยาง แต่พื้นไม้หนา 22 มม. ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ สัมผัสแน่นหนา และเป็นมิตรต่อร่างกายนักกีฬามากกว่า อีกทั้งยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของสนามให้ดูเป็นมืออาชีพและน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น

ในการเลือกติดตั้งพื้นไม้สนามกีฬาหนา 22 มม. ควรคำนึงถึงลักษณะการใช้งานของสนาม หากเป็นสนามแข่งขันระดับสูง ควรลงทุนในวัสดุและระบบติดตั้งที่มีคุณภาพดีที่สุดเพื่อรองรับการใช้งานอย่างหนักหน่วง หากเป็นสนามฝึกซ้อมหรือสนามในสถานศึกษา อาจเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับงบประมาณโดยไม่ลดทอนมาตรฐานความปลอดภัย

สุดท้ายแล้ว การดูแลรักษาอย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นไม้ได้หลายปี พื้นควรได้รับการทำความสะอาดเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหรือน้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน และควรมีการตรวจสอบสภาพพื้นอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะรอยแตกหรือหลุดร่อนของแผ่นไม้หรือสารเคลือบ เพื่อให้มั่นใจว่าสนามอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

สรุปได้ว่า ราคาพื้นไม้สนามกีฬาหนา 22 มม. อาจแตกต่างกันไปตามวัสดุ ระบบโครงสร้าง และความละเอียดในการติดตั้ง แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในแง่ของความทนทาน ความปลอดภัย และภาพลักษณ์ของสนามกีฬา โดยเฉพาะเมื่อสนามนั้นมีการใช้งานต่อเนื่องในระดับแข่งขันหรือกิจกรรมสาธารณะอย่างต่อเนื่อง

 

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top