ระดับกันไฟของพื้นไม้กีฬาแบบกระดูกเดี่ยว

ในสนามกีฬาที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ โดยเฉพาะพื้นไม้ระบบ “กระดูกเดี่ยว” หรือที่เรียกกันว่า Single Batten System ซึ่งเป็นระบบพื้นไม้กีฬาที่มีโครงสร้างง่าย น้ำหนักเบา และติดตั้งรวดเร็ว พื้นไม้แบบนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในโรงเรียน ยิมเนเซียม และสนามฝึกซ้อม เนื่องจากมีต้นทุนที่คุ้มค่า และตอบโจทย์ด้านการใช้งานได้ดี แต่ในแง่ของความปลอดภัยโดยรวม โดยเฉพาะ “ระดับกันไฟ” ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบด้านเช่นกัน

ระดับกันไฟของพื้นไม้กีฬาแบบกระดูกเดี่ยว
ระดับกันไฟของพื้นไม้กีฬาแบบกระดูกเดี่ยว

พื้นไม้กีฬาแบบกระดูกเดี่ยวมีโครงสร้างหลักคือชั้นไม้เนื้อแข็งที่ติดตั้งอยู่บนแผ่นไม้รองรับแนวเดียว ซึ่งต่างจากระบบโครงสองชั้นที่มีชั้นรองรับแรงกระแทกเพิ่มเติม แม้ระบบกระดูกเดี่ยวจะมีความเรียบง่าย แต่ก็สามารถตอบสนองการใช้งานพื้นฐานได้ดี อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ไฟไหม้ พื้นไม้ที่ไม่มีการป้องกันที่เหมาะสมอาจกลายเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ไฟลุกลามได้อย่างรวดเร็ว

ระดับกันไฟของพื้นไม้กีฬาแบบกระดูกเดี่ยวจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของทั้งตัวอาคารและผู้ใช้งาน โดยทั่วไปแล้วพื้นไม้กีฬาที่ได้มาตรฐานควรผ่านการทดสอบระดับกันไฟในระดับ B1 หรือเทียบเท่า ซึ่งหมายความว่า วัสดุจะไม่ลุกติดไฟง่าย และหากไม่มีแหล่งความร้อนเพิ่มเติม เปลวไฟจะดับเองภายในระยะเวลาอันสั้น ทั้งยังไม่ปล่อยควันพิษในระดับอันตราย ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในพื้นที่ปิด

กระบวนการทำให้พื้นไม้กระดูกเดี่ยวมีคุณสมบัติกันไฟที่ดี มักเริ่มจากการคัดเลือกไม้เนื้อแข็งคุณภาพสูง เช่น เมเปิ้ล เบิร์ช หรือโอ๊ค ซึ่งมีค่าความชื้นเหมาะสม จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการอาบสารหน่วงไฟ หรือเคลือบผิวด้วยสารป้องกันการลุกไหม้ที่สามารถแทรกซึมเข้าสู่เนื้อไม้ได้อย่างลึกซึ้ง สารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสร้างชั้นป้องกันเมื่อสัมผัสกับความร้อน ช่วยลดการแพร่กระจายของเปลวไฟ และชะลอการเผาไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อดีของการใช้พื้นไม้กีฬาแบบกระดูกเดี่ยวที่ผ่านการเคลือบกันไฟ คือสามารถรักษาคุณสมบัติเดิมของไม้ไว้ได้ ทั้งในด้านความทนทาน ความยืดหยุ่น และความสวยงาม โดยไม่ทำให้ไม้เสียหายหรือสูญเสียแรงดูดซับแรงกระแทก พื้นยังสามารถรับแรงจากการกระโดดหรือการเคลื่อนไหวอย่างหนักของนักกีฬาได้ตามปกติ อีกทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับระบบซับเสียงหรือวัสดุเสริมแรงสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากเรื่องความปลอดภัยด้านไฟแล้ว พื้นไม้ที่ผ่านการเคลือบสารกันไฟยังมีคุณสมบัติต้านเชื้อรา แมลง และความชื้นในตัว ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระยะยาวได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศเขตร้อนที่มีความชื้นสูงและเปลี่ยนแปลงบ่อย

อีกหนึ่งข้อดีที่ไม่ควรมองข้ามคือ พื้นไม้แบบกระดูกเดี่ยวสามารถปรับแต่งและตกแต่งพื้นผิวได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขัดเงา เคลือบใส หรือทาสีตีเส้นสนาม เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น สนามบาสเกตบอล วอลเลย์บอล หรือแบดมินตัน การเคลือบสารกันไฟจะไม่รบกวนความสวยงามของเนื้อไม้ และยังช่วยป้องกันการลอกหรือซีดจางจากแสงแดดและการใช้งานอย่างต่อเนื่อง

จากมุมมองด้านการบริหารจัดการ พื้นไม้กีฬาแบบกระดูกเดี่ยวที่ผ่านการรับรองระดับกันไฟ สามารถช่วยให้สนามผ่านเกณฑ์ความปลอดภัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับสากล โดยเฉพาะหากต้องการให้สนามใช้สำหรับการแข่งขันอย่างเป็นทางการ หรือเปิดใช้งานในรูปแบบเชิงพาณิชย์

กล่าวโดยสรุป พื้นไม้กีฬาแบบกระดูกเดี่ยวอาจดูเรียบง่าย แต่หากเลือกใช้วัสดุที่ผ่านการรับรองระดับกันไฟอย่างเหมาะสม ก็สามารถมอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพการใช้งานได้ไม่แพ้ระบบพื้นระดับสูงอื่น ๆ เป็นทางเลือกที่ลงตัวระหว่างคุณภาพ ความคุ้มค่า และความปลอดภัย โดยเฉพาะในยุคที่การออกแบบสนามกีฬาไม่เพียงเน้นเรื่องความสวยงาม แต่ต้องตอบโจทย์เรื่องมาตรฐานและความปลอดภัยอย่างรอบด้านด้วย

 

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top