รายงานการทดสอบพื้นไม้บาสเกตบอลโอ๊ค

รายงานการทดสอบพื้นไม้บาสเกตบอลโอ๊ค

พื้นสนามบาสเกตบอลถือเป็นองค์ประกอบที่มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของการแข่งขัน ความปลอดภัยของผู้เล่น และความยั่งยืนของสนามกีฬา ในปัจจุบันมีการใช้วัสดุหลากหลายชนิดสำหรับพื้นสนาม หนึ่งในนั้นคือ “ไม้โอ๊ค” ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเนื่องจากคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน และให้สัมผัสที่มั่นคง บทความนี้จึงจัดทำขึ้นเพื่อรายงานการทดสอบพื้นไม้บาสเกตบอลโอ๊คโดยเฉพาะ โดยครอบคลุมทั้งในแง่ของโครงสร้าง ความปลอดภัย และสมรรถนะในการใช้งานจริง

รายงานการทดสอบพื้นไม้บาสเกตบอลโอ๊ค
รายงานการทดสอบพื้นไม้บาสเกตบอลโอ๊ค

ไม้โอ๊คเป็นไม้เนื้อแข็งที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน มีความหนาแน่นสูงและทนต่อแรงกระแทกได้ดี โดยทั่วไปแล้วไม้โอ๊คที่นำมาใช้สำหรับสนามบาสเกตบอลจะผ่านกระบวนการอบแห้งและเคลือบผิวหลายชั้น เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานและลดโอกาสเกิดรอยขีดข่วน ในการทดสอบพื้นไม้โอ๊ค ทีมวิศวกรรมและผู้เชี่ยวชาญได้ทำการตรวจวัดในหลายด้านเพื่อประเมินคุณสมบัติอย่างรอบด้าน

หนึ่งในขั้นตอนสำคัญคือการทดสอบค่าการดูดซับแรงกระแทก (Shock Absorption) โดยการจำลองแรงกดจากการกระโดดและวิ่งของนักกีฬา ผลการทดสอบแสดงว่า พื้นไม้โอ๊คสามารถดูดซับแรงได้ประมาณ 55-58% ซึ่งอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับมาตรฐานสนามบาสเกตบอลสากล ค่าในระดับนี้ช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บบริเวณข้อต่อ เช่น หัวเข่าและข้อเท้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ต่อมาคือการทดสอบแรงสะท้อนของลูกบาสเกตบอล (Ball Rebound) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสมจริงในการเล่น เมื่อลูกบอลถูกปล่อยจากระดับความสูงมาตรฐานบนพื้นไม้โอ๊ค ค่าการเด้งกลับอยู่ที่ประมาณ 91-94% เมื่อเทียบกับพื้นคอนกรีต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพื้นไม้โอ๊คสามารถรองรับการแข่งขันระดับมืออาชีพได้

นอกจากนี้ ยังมีการวัดค่าความฝืดของพื้น (Surface Friction) ซึ่งสำคัญมากในการเคลื่อนไหวของผู้เล่น พื้นที่ลื่นเกินไปอาจทำให้ล้มได้ง่าย ขณะที่พื้นที่ฝืดเกินไปอาจทำให้เกิดการสะดุดหรือบาดเจ็บจากการเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว จากผลการทดสอบ พื้นไม้โอ๊คมีค่าความฝืดอยู่ในช่วง 0.5-0.6 ซึ่งเป็นค่าที่เหมาะสมสำหรับการเล่นกีฬาในร่ม

ในด้านความสม่ำเสมอของพื้นผิว (Surface Uniformity) ทีมทดสอบได้ใช้เครื่องมือเลเซอร์ตรวจสอบความเรียบของพื้นในแต่ละจุด พบว่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 2 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และไม่มีการยุบตัวเมื่อทำการทดสอบด้วยน้ำหนักของนักกีฬา

ความแข็งแรงของระบบรองรับพื้น (Subfloor System) ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ พื้นไม้โอ๊คที่ใช้โครงสร้างแบบลอย (Floating System) ให้ความยืดหยุ่นในระดับที่ดี และช่วยลดแรงสะเทือนไปยังโครงสร้างของอาคาร ทีมงานทดสอบได้ทำการจำลองแรงกระแทกและการกระจายน้ำหนัก พบว่าระบบสามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่า 1000 กิโลกรัมต่อจุด โดยไม่เกิดความเสียหาย

ในส่วนของการติดตั้ง ไม้โอ๊คต้องใช้เทคนิคเฉพาะ โดยมีการเว้นช่องว่างสำหรับการขยายตัวของไม้เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือความชื้น นอกจากนี้ยังมีการเคลือบผิวด้วยวัสดุป้องกัน UV และรอยขีดข่วน เพื่อให้พื้นดูใหม่อยู่เสมอแม้ใช้งานเป็นเวลานาน

หลังจากการทดสอบภาคสนามโดยนักกีฬาจริง พบว่าพื้นไม้โอ๊คให้ความรู้สึกมั่นคงขณะวิ่ง การหยุดและเปลี่ยนทิศทางทำได้อย่างคล่องตัว และไม่มีเสียงสะท้อนที่รบกวนระหว่างการแข่งขัน อีกทั้งยังให้สัมผัสที่นุ่มสบายเมื่อสัมผัสกับรองเท้ากีฬา ทำให้นักกีฬาหลายคนให้ความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับพื้นสนามประเภทนี้

สรุปได้ว่า พื้นไม้บาสเกตบอลโอ๊คเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการสร้างสนามกีฬาในร่มที่มีคุณภาพสูง ด้วยคุณสมบัติด้านความแข็งแรง ความปลอดภัย ความสวยงาม และการดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก หากผ่านการติดตั้งและทดสอบตามมาตรฐาน พื้นไม้โอ๊คสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมทั้งสำหรับนักกีฬาและผู้ใช้งานทั่วไป

 

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top