วัสดุพื้นไม้กีฬาไม้โอ๊ก

ไม้โอ๊ก (Oak) เป็นหนึ่งในวัสดุไม้เนื้อแข็งที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้ทำพื้นสนามกีฬา โดยเฉพาะในสนามที่ต้องการความแข็งแรง ความทนทาน และความหรูหราไปพร้อมกัน ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งด้านโครงสร้าง ความยืดหยุ่น และลวดลายที่ชัดเจน ไม้โอ๊กจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างสนามกีฬาที่ได้มาตรฐานระดับสูงและมีอายุการใช้งานยาวนาน

วัสดุพื้นไม้กีฬาไม้โอ๊ก
วัสดุพื้นไม้กีฬาไม้โอ๊ก

คุณสมบัติหลักของไม้โอ๊กในงานพื้นสนามกีฬา
ไม้โอ๊กเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความหนาแน่นสูง มีเส้นใยแน่น ลายไม้สวยงามชัดเจน และมีโทนสีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนจนถึงน้ำตาลเข้ม ทั้งยังมีความแข็งแรง ทนต่อแรงกด แรงกระแทก และการสึกหรอจากการใช้งานหนักได้ดี โครงสร้างของไม้โอ๊กช่วยรองรับแรงจากการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหรือการกระโดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเหมาะกับกีฬาที่ต้องการความคล่องตัวและความแม่นยำสูง

ข้อดีของพื้นไม้กีฬาไม้โอ๊ก

  1. ความแข็งแรงและทนทานสูง
    โครงสร้างของไม้โอ๊กสามารถรองรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ทำให้ไม่เกิดการยุบตัวหรือแตกร้าวง่าย ๆ แม้มีการใช้งานต่อเนื่องในระดับการแข่งขัน
  2. ลวดลายไม้โดดเด่น ให้ความรู้สึกพรีเมียม
    ลายไม้โอ๊กเป็นเอกลักษณ์ มีความชัดเจนและดูสง่างาม เมื่อใช้ทำพื้นสนาม จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของสถานที่ให้ดูทันสมัยและมีรสนิยม
  3. รองรับแรงกระแทก ลดการบาดเจ็บ
    ด้วยความหนาแน่นและความยืดหยุ่นที่พอดี พื้นไม้โอ๊กสามารถดูดซับแรงกระแทกบางส่วนได้ ช่วยลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บของนักกีฬา
  4. อายุการใช้งานยาวนาน
    หากได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม พื้นไม้โอ๊กสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 20-30 ปี เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว

โครงสร้างพื้นสนามไม้โอ๊ก

พื้นสนามที่ทำจากไม้โอ๊กมักประกอบด้วยโครงสร้างหลายชั้นเพื่อรองรับแรงต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ:

  • ชั้นบน (Surface Layer): ใช้ไม้โอ๊กเนื้อแข็งหนา 20-22 มม. ขัดเรียบและเคลือบผิวด้วยสารกันลื่น
  • ชั้นรองรับแรงกระแทก: มีการติดตั้งแผ่นรองโฟมหรือยางเพื่อช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือน
  • ระบบโครงไม้ (Batten System): ออกแบบให้มีการกระจายน้ำหนักและแรงกระแทกอย่างเหมาะสม
  • พื้นฐานคอนกรีต: ต้องมีการปรับระดับให้เรียบ เพื่อรองรับโครงสร้างทั้งหมดอย่างมั่นคง

ข้อควรพิจารณาในการเลือกใช้ไม้โอ๊ก

แม้ว่าไม้โอ๊กจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อควรพิจารณาบางประการก่อนนำไปใช้ในสนามกีฬา:

  • น้ำหนักมาก: ไม้โอ๊กมีน้ำหนักค่อนข้างมาก อาจทำให้ขั้นตอนการติดตั้งซับซ้อนและใช้เวลานานขึ้น
  • ราคาสูง: ด้วยความเป็นวัสดุระดับพรีเมียม ราคาของไม้โอ๊กจึงค่อนข้างสูงกว่าไม้ชนิดอื่น
  • ควบคุมสภาพแวดล้อม: ต้องติดตั้งในพื้นที่ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้ เพื่อป้องกันการบิดงอหรือแตกร้าว

เปรียบเทียบไม้โอ๊กกับไม้กีฬาชนิดอื่น

คุณสมบัติ ไม้โอ๊ก (Oak) ไม้เมเปิ้ล (Maple) ไม้เบิร์ช (Birch)
ความแข็งแรง สูงมาก สูง ปานกลางถึงสูง
ความยืดหยุ่น ปานกลาง ปานกลาง ดีเยี่ยม
ลวดลายไม้ ชัดเจน หนักแน่น เรียบ สม่ำเสมอ ลายอ่อน สีอ่อน
อายุการใช้งาน 20-30 ปี 20-25 ปี 10-15 ปี
น้ำหนัก มาก ปานกลาง เบา
ราคา สูงมาก สูง ปานกลาง

แนวทางการดูแลรักษาพื้นไม้โอ๊กในสนามกีฬา

  • ทำความสะอาดเป็นประจำ: ใช้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นเก็บฝุ่นและเศษสิ่งสกปรก หลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกแรง ๆ
  • ควบคุมความชื้นในอากาศ: พื้นไม้ควรอยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้นสัมพัทธ์ระหว่าง 35-50%
  • ขัดผิวและเคลือบใหม่: ควรขัดผิวพื้นไม้โอ๊กและเคลือบสารกันลื่นใหม่ทุก 1-2 ปี เพื่อคงสภาพการใช้งานที่ดี
  • หลีกเลี่ยงการลากของหนัก: หลีกเลี่ยงการลากเก้าอี้ โต๊ะ หรืออุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากบนพื้นเพื่อป้องกันการขีดข่วน

บทสรุป

พื้นไม้โอ๊กเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับสนามกีฬาที่ต้องการทั้งความทนทาน ความสวยงาม และความปลอดภัยในระยะยาว ด้วยลักษณะเฉพาะของไม้ที่มีโครงสร้างแข็งแรง ลวดลายสวยงาม และสามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี ทำให้ไม้โอ๊กเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสนามกีฬาในร่มระดับมืออาชีพ โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือศูนย์ฝึกซ้อมต่าง ๆ แม้ว่าราคาจะสูงกว่าวัสดุอื่น แต่คุณค่าที่ได้กลับมาทั้งด้านฟังก์ชันและภาพลักษณ์ถือว่าคุ้มค่าอย่างแท้จริง หากติดตั้งและดูแลรักษาอย่างถูกวิธี พื้นไม้โอ๊กจะเป็นสินทรัพย์ที่สร้างความประทับใจและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานไปอีกหลายสิบปี

 

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top